เนื่องในวันที่ ๒๘ เมษายน เป็นวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
วันนี้ลุงหมอจึงขอพาเพื่อนๆไปพบกับสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ซึ่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือสถานที่ เมื่อครั้งที่ทั้งสองพระองค์เสด็จฯเยือนญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจการเจริญสัมพันธไมตรี และเยี่ยมเยียนชาวไทยผู้ที่ศึกษา,ปฏิบัติงานในอยู่ประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนั้นได้เสด็จฯเยือนเมืองที่สำคัญๆ ทั้งโตเกียว เกียวโต นารา โอซาก้า นาโกย่า กิฟุ
แต่สถานที่ที่ลุงหมอจะพาเพื่อนๆไปชมในวันนี้ จะอยู่ในเขตคันไซเป็นหลัก
วัด Byodoin
สถานที่แรก เป็นที่ที่ลุงหมอมีความประทับใจในความงดงาม และเป็นที่ๆเพิ่งเคยได้มาเป็นครั้งแรก นั่นคือวัด Byodoin ซึ่งเป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่ในเมือง Uji ซึ่งใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟ ไม่ไกลจาก Kyoto เลย
นี่คือบริเวณทางเข้าวัด ซึ่งด้านนอกจะมีร้านรวง ขายของที่ระลึกโดยเฉพาะชาเขียว Matcha อันขึ้นชื่อของเมืองอยู่มากมาย
ในวันที่ซากุระโรยไปหมดแล้ว ก็จะมีซุ้มดอกไม้ที่ทางวัดปลูกขึ้นมาเพื่อประดับให้สวยงาม เมื่อจ่ายเงินค่าประตู 600 เยน แล้ว เราก็จะได้เข้าไปพบกับความงดงามของบริเวณวัดด้านใน
วิหารอันเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่กลางสระน้ำอันโดดเด่นนั้น มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี หากนับเวลาตั้งแต่วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 998
หากเราจะเข้าไปชมภายในตัววิหารกลางน้ำ จะต้องเสียค่าเข้าเพิ่มต่างหากโดยซื้อบัตรที่ซุ้มด้านใน และจะมีการจำกัดจำนวน หากเพื่อนๆเดินทางไปถึงบ่ายหรือเย็นก็อาจจะไม่ทันคิวซื้อบัตรเข้าชมวิหาร เพราะที่นี่จะมีคณะนักเรียนญี่ปุ่นเดินทางมาทัศนศึกษาตลอดทั้งวัน
แต่ถ้าเราเลือกเดินชมความงามแค่โดยรอบก็ไม่ต้องซื้อบัตรเพิ่ม
มุมนี้เป็นมุมที่ลุงหมอได้มายืนแล้วรู้สึกว่าที่นี่ช่างเป็นวัดที่งดงามเหลือเกิน แม้ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของทางญี่ปุ่นมาก่อน แต่ก็มีภาพในใจที่อยากมาเห็นมาสัมผัสด้วยตาสักครั้ง
วัด Byodoin เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ และปี พศ ๒๕๖๑
นอกจากภายในวัด Byoin แล้ว ด้านนอกซึ่งติดกับแม่น้ำ Uji นั้นมีความสวยงามและน่าพักผ่อนเป็นอย่างมาก เพื่อนๆที่มีโอกาสมาเที่ยว Kyoto อย่าลืมแวะมาเที่ยวเมือง Uji ซึ่งถือเป็นเมืองน่ารักอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และมีความสวยงามทั้งในฤดูใบไม้ผลิและช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
การเดินทาง จะมีทั้งรถไฟ JR และ รถไฟ Keihan railway มาลงสถานีที่ชือว่า Uji เหมือนกัน แต่จะอยู่คนละฝากของแม่น้ำ ซึ่งจากทั้งสองสถานีก็เดินมาที่วัดได้ไม่ยาก
จาก Uji จะพาลงใต้ไปยังเมืองหลวงเก่า Nara ซึ่งลุงหมอเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงเคยมาสถานที่แห่งนี้แล้ว นั่นก็คือ วัด Todaiji หรือวัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา (Daibutsu of Nara)
วัด Todaiji ,Nara
ที่นี่คือสถานที่เสด็จฯของสองพระองค์ในปี ๒๕๐๖ เช่นกัน
และสิ่งที่คู่กับเมืองนี้มาช้านานนอกจากถาวรวัตถุ แล้ว นั่นก็คือ กวาง อันมีชื่อเสียงโด่งดัง
ซึ่งเราจะพบกวางอยู่ทั่งไปทั้งภายในเขตวัด และสวนสาธารนะ Nara park อันกว้างใหญ่
แม้ Nara จะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น แต่ด้วยความกว้างใหญ่ของ Nara park เพื่อนๆที่ชอบความสงบก็อาจจะสามารถเดินเล่นหามุมถ่ายรูปสวยๆของสวนอันกว้างใหญ่ของเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ได้ไม่ยาก
การเดินทางมายังวัด Todaiji นั้นก็ไม่ยาก สามารถนั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Nara หรือใครที่มาจาก Kyoto ก็จะมีรถด่วน Kintetsu มาลงที่ Kintetsu-Nara Station ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาที
สถานที่สุดท้าย ที่จะพาไปตามรอยเสด็จฯนั้น ถือเป็นสถานที่สำคัญ เพราะที่นั่นคือพระราชวังเกียวโต ซึ่งตามปกติจะต้องทำการจองเพื่อเข้าชม แต่ในวันที่ลุงหมอเดินทางไป เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า จึงเป็นโอกาสดีีที่ลุงหมอจะได้เข้าไปพาเพื่อนๆเที่ยว
Kyoto Omiya Palace และ Sento Imperial Palace
นอกจากนี้บริเวณรอบๆพระราชวังนั้นมีอาณาบริเวณกว้าง และมีต้นซากุระพันธุ์ย้อยที่สวยงามให้ชม
การเดินทาง สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ Marutamachi Station
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามการเดินทาง
เพจ บ้านลุงหมอ บ้านพักญี่ปุ่นอบอุ่นสำหรับทุกครอบครัว ที่ภูเก็ต