

สวัสดีแฟนเพจ ลุงหมอขอพักร้อน ที่หลงรักการเดินทาง และฤดูกาลที่สวยงาม
วันนี้ลุงหมอได้รวบรวมสถานทีชมใบไม้เปลี่ยนสี ในเมือง Shiga ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Kyoto … เนื่องจากอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของ Shiga จะต่ำกว่าใน Kyoto ดังนั้นช่วงฤดู Autumn ใบไม้ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งโดยมากจะเป็นวัดเล็กๆที่อยู่ตามเชิงเขา ก็จะมีการเปลี่ยนสีสันก่อน Kyoto ส่วนช่วงเวลาที่ฤดูใบไม้ผลิมาถึง ซากุระก็จะบานช้ากว่า Kyoto เล็กน้อย
การที่เพื่อนๆเตรียมหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวของ Shiga เอาไว้ด้วย เมื่อยามวางแผนไปเที่ยว Kyoto ก็จะทำให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนการเที่ยวได้ หากไปเจอสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ เช่นไปถึง Kyoto ตอนที่ใบไม้ยังเป็นสีเขียวๆเหลืองไม่พีคสมใจ หรือถ้าฤดูใบไม้ผลิ ไปช่วงที่ซากุระใน Kyoto โรยไปหมดแล้ว ถ้าออกมาทาง Shiga ก็อาจจะยังมีสวยๆให้ชม

วัด Keisoku-ji

วัดแรกที่อยากมาแนะนำ ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการชม Momiji มากที่สุดแห่งหนึ่งของ Shiga เลยก็ว่าได้ ภาพถ่ายที่เป็นที่ติดตาและเชื้อเชิญให้บรรดาช่างภาพทั้งหลายได้เดินทางมาถึงที่นี่ก็คือ ภาพ Red carpet ที่ปูอยู่บนทางเดิน ราวกับ ขั้นบัดไดที่ปูด้วยพรมแดง

วัด keisoku-ji นั้นตั้งอยู่ที่ Nagahama แต่ว่าเราต้องนั่งรถไฟ ขบวน local จาก Nagahama ต่อมาที่สถานี JR Kinomoto Station ก่อนทีจะนั่งรถ Shuttle bus ไปยังวัด แต่ถ้าหากใครรีบ หรือมาถึงแต่เช้า ก็อาจจะนั่งรถ Taxi จากสถานีรถไฟ kinomoto ไปส่งที่ทางเข้าวัดได้เช่นกัน (ค่า taxi ประมาณ 2500 เยน)

มุมนี้เรียกว่า มุมมหาชน แต่ถ่ายย้อนลงไป ปกติจะมีช่างภาพยืนอยู่เต็มที่ด้านล่าง

นอกจาก Red Carpet ที่ทุกคนอยากมาเห็นแล้ว ภายในเขตวัด ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายวัดป่าบ้านเรา ก็จะมีต้นเมเปิลสีสันจัดจ้านอยู่ทั่วประมาณสองร้อยต้น เรียกว่าถ่ายภาพกันสนุกไปเลย


ใบไม้เปลี่ยนสีไล่ระดับกันไป ในวันที่แสงแดดดี


สวนเล็กๆอีกด้าน ก็จะมีมุมให้ถ่ายภาพเงา momiji สะท้อนน้ำ ช่วงสายๆไปถึงบ่ายจะมีผู้คนมากมายเดินทางมาที่วัด ทั้งทัวร์ญี่ปุ่นและเท่าที่สังเกตทัวร์จีนก็จะมีมาถึงวัด Keisokuji แล้วเนื่องจากเป็นวัดที่มีชื่อเสียง หากเพื่อนๆต้องการถ่ายภาพพรมแดงสวยๆ ก็แนะนำให้มาถึงแต่เช้า
Link รีวิวของลุงหมอ : KEISOKU-JI วัดพรมแดง แห่ง SHIGA


วัด Kongorin-ji
“Blood-red maples” คือฉายาของวัดทางฝั่งตะวันออกของ Shiga แห่งนี้ แม้จะเป็นวัดที่เดินทางด้วยตัวเองไปยากสักหน่อย แต่ก็เป็นอีกแห่งที่น่าไปเที่ยวชมสำหรับคนที่ชื่นชอบสีสันของ momiji และเป็นหนึ่งในสาม วัดที่เก่าแก่ที่สุดในนิกาย Tendai ซึ่งตั้งอยู่ที่ Shiga ที่มีชื่อว่า trio of Tendai temples (Saimyo-ji, Kongorin-ji, Hyakusai-ji)

จากภาพคือทางเดินเข้าวัด ซุ้มทางขวามือเป็นที่ขายบัตรเข้าชมวัด จะเห็นว่าทางเดินเข้าไปนั้นปกคลุมด้วยอุโมงค์สีแดงสดใสมากในช่วงเวลาพีคของใบไม้เปลี่ยนสี

สำหรับตัวอาคาร main hall วัด Kongorin-ji จะตั้งอยู่บนภูเขาสูง ต้องออกแรงเดินขึ้นไปสักหน่อย ผู้สูงอายุอาจจะขึ้นไม่ไหว (แต่ลุงหมอก็เห็นสว.ญี่ปุ่นเดินขึ้นไปกันได้หลายคนเลย)





Link รีวิวของลุงหมอ KONGORIN-JI TEMPLE “BLOOD-RED MAPLES.”
การเดินทาง ลงรถไฟที่สถานี Inae station จากนั้น รอรถบัส หรือเรียก Taxi ไปส่งที่วัด

วัด Hyakusaiji
เป็นหนึ่งใน trio of Tendai temples เช่นเดียวกับ วัด Kongorin-ji และมีรถ shuttle bus พิเศษ รับส่งถึงกันในช่วงฤดู Autumn

Hyakusaiji เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆอีกแห่งของ Shiga โดยเฉพาะภาพทางเดิน ที่จะมีใบไม้สีแดงร่วงลงมาเป็นพรมในปลายฤดูใบไม้ร่วง

จากบริเวณลานจอดรถหน้าวัด จะเห็นว่าวัดจะอยู่บริเวณเชิงเขา คล้ายกับอีกหลายๆวัดใน Shiga การเดินทางมายังวัด ส่วนใหญ่จะไม่มีสถานีรถไฟผ่านถึงหน้าวัดหรืออยู่ใกล้ๆ จำเป็นต้องอาศัยรถบัสอีกต่อ

สระน้ำของวัด ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง ก็งดงามเกินคำบรรยาย สามารถนั่งชม เดินชมแบบสโลวไลฟ์ได้ไม่เบื่อเลย





Linkรีวิวของลุงหมอ: HYAKUSAIJI : วัดร้อยสี “TEMPLE OF A HUNDRED COLORS”
การเดินทาง ช่วงฤดู Autumn จะมีรถ Shuttle bus จากสถานี Yōkaichi Station วันละสี่รอบ คือประมาณ เก้าโมงและสิบโมงเช้า และบ่ายสองกับบ่ายสามโมง
นอกจากนี้ยังมีรถ Shuttle bus ที่วิ่งส่งนักท่องเที่ยวมาจากวัด Kongorinji มายัง
Hyakusaiji ลุงหมอไม่แน่ใจเรื่องเวลาของรถบัสนี้

สถานีรถไฟ Yōkaichi Station ที่จะมีรถ shuttle bus ไปส่งที่วัด Hyakusai-ji และรถบัสประจำทางสาย 1 ไปยังวัด Eigenji (รีวิวต่อไป) จะเห็นว่าด้านหลังสถานีรถไฟมีใบไม้สีแดงสดใสให้เห็นแล้ว

วัด Eigenji

อีกหนึ่งวัดสีสันสุดสวยของ Shiga ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาติดแม่น้ำ Echi จากบริเวณแม่น้ำที่เห็น ต้องค่อยๆเดินตามบันไดขึ้นเขาไปหนึ่งอึดใจ จึงจะเจอประตู้เข้าวัด

ภายในวัดเต็มไปด้วยสีสันแดงเดือดในช่วงพีค และสวยเกินความคาดหมาย ลุงหมอเดินทางไปถึง Eigenji ในช่วงบ่าย นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด






Link : รีวิวของลุงหมอ EIGEN-JI วัดแดงเดือดริมฝั่งแม่น้ำ ECHI
การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Yōkaichi Station เช่นกัน จะมีรถบัสประจำทางสาย 1 นั่งไปถึงป้าย Eigenji Mae (ป้ายรถจะอยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ Echi
วัด Seiryuji , Tokugen-in

เป็นวัดที่เล็กมากๆ และไม่ได้เก่าแก่เท่าวัดที่ผ่านๆมา แต่ที่นี่มีสวนที่เงียบสงบและสวยงามเด็ดขาดบาดใจมาก ลุงหมอประทับใจที่นี่มากที่สุดแห่งหนึ่งในทริปนี้


จากตัวอาคารจะมี ระเบียงที่เปิดโล่งให้ชมสวน และจิบน้ำชา วันที่ลุงหมอไปไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน แต่ตอนทีเดินออกมาจากวัดก็เห็นรถทัวร์วิ่งเข้าไปเหมือนกัน ถ้าเพื่อนๆอยากถ่ายภาพสบายๆ ต้องเดินทางมาแต่เช้า

Link TOKUGEN-IN ภาพวาดแห่งฤดูกาลที่มีชีวิต
การเดินทาง วัด Seiryuji , Tokugen-in อยู่ที่ Maibara แต่ต้องต่อรถไฟมาลงที่สถานี
Kashiwabara station แล้วเดินจากสถานีไปวัด ประมาณสิบห้านาที
Kyu Chikurinin Garden (Former Chikurin-in Temple)

จุดถ่ายภาพที่ขึ้นชื่ออีกแห่งที่โด่งดังอยู่ใน IG โดยมีภาพร่มแดงสะท้อนเงาของโต๊ะที่ตั้งอยู่ในตัวอาคารเป็นไฮไลท์

โต๊ะขัดเงาจะมีตั้งไว้ทั้งชั้นล่าง และชั้นบน ใครที่ชอบถ่ายภาพสะท้องเงาแบบวัด Ruriko-in ที่นี่ถือว่าน่าสนใจ แม้จะใช้เวลาเดินทางออกมาจาก Kyoto สักหน่อย แต่จำนวนช่างภาพและนักท่องเที่ยวแตกต่างกันมาก รวมถึงค่าบัตรผ่านประตูที่ถูกกว่ากันสามสี่เท่า

สวนญี่ปุ่น ที่มีโต๊ะ กับร่มแดงอยู่คู่กัน เป็นสัญลักษณ์เด่นของที่นี่ไปแล้ว


สวนของที่นี้ก็งดงามไม่น้อย เป็นสวนเล็กๆที่ใช้เวลาเดินชมไม่นาน
Link รีวิวของลุงหมอ Chikurin-in ร่มแดง แสงและเงา
การเดินทาง : นั่งรถไฟ
Keihan-Ishiyamasakamoto Line มาลงสุดทางที่ สถานี Sakamoto-hieizanguchi Station แล้วเดินออกมาตามถนนขึ้นไปจนถึงทางเข้าศาลเจ้า Hiyoshi-Taisha วัดจะอยู่บริเวณหน้าศาลเจ้า
ศาลเจ้า Hiyoshi-Taisha

ศาลเจ้าแห่งนี้จะอยู่บริเวณเชิงเขา Hiei ซึ่งบริเวณติดกับวัด Former Chikurin-in Temple




การเดินทาง : นั่งรถไฟ
Keihan-Ishiyamasakamoto Line มาลงสุดทางที่ สถานี Sakamoto-hieizanguchi Station แล้วเดินออกมาตามถนนขึ้นไปจนถึงทางเข้าศาลเจ้า
วัด Ishiyamadera

จากสถานี สถานี Sakamoto-hieizanguchi Station เรานั่งรถไฟ Keihan-Ishiyamasakamoto Line ลงมาสุดสายก็จะถึงสถานี Ishiyamadera

วัด Ishiyamadera ซึ่งดูจะเป็นวัดที่อยู่ในเมืองมากที่สุด และเดินทางได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับวัดอื่นๆ แต่ก็เป็นสถานที่น่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน จะมีการเปิดไฟไลท์อัพ อุโมงค์ momiji ที่อยู่ทางเดินเข้ามาในเขตวัด

การเดินทาง นั่งรถไฟ Keihan-Ishiyamasakamoto Line มาลงที่ สถานี Ishiyamadera แล้วเดินตาทางเลียบแม่น้ำมาประมาณสิบนาทีก็จะถึงวัด

Link รีวิวของลุงหมอ ถ้อยคำอำลาที่ Ishiyamadera
ขอให้เพื่อนๆมีความสุข ในทุกๆการออกเดินทาง
ผู้สนับสนุนการเดินทาง เพจบ้านลุงหมอ
https://www.facebook.com/uncledoctorhome/
บ้านพักญี่ปุ่น อบอุ่นทุกฤดูที่ ภูเก็ต


