Crampiolo งดงามจนอยากให้เวลาหยุดเดิน

ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆในการเดินทาง จนมาถึง Alpe Devero ในที่สุด

เมื่อทะเลาะกับห่านแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาทะเลาะกับตัวเอง เพราะว่าลุงหมอกำลังจะพาเพื่อนเดินข้ามเขา(เล็กๆ) ไปยัง Crampiolo ….. มาถึงตอนนี้ หัวใจอยากจะไปต่อ แต่ไขข้อบอกว่ารอก่อน เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะชนะ

บ่อยครั้งที่หัวใจ กับ ไขข้อ ทะเลาะกันระหว่างการเดินทาง
Bar Pensione Fattorini

จากหมู่บ้าน Alpe devero เมื่อเราเดินข้ามสะพานหลักและผ่าน โรงแรม Bar Pensione Fattorini ไป จะเป็นถนนสายหลักตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางที่เดินข้ามเขาไปยัง Crampiolo นั้นจะมีสองทาง คือทางแยกขึ้นไปทางขวามือจากถนนหลักซึ่งเป็นทางไม่ชันมาก กับอีกทางคือตรงไปจนทะลุหมู่บ้านที่มองเห็นไกลๆ จะมีทางเดินลัดเลาะขึ้นเขาไป ตรงนี้ทางจะชันกว่า แต่ระหว่างทางจะมีบ้านหลังเล็กๆให้ถ่ายรูประหว่างทาง ทั้งสองทางจะมีป้ายลูกศรบอกว่าไป Crampiolo

ถนนทางเดินข้ามเขาที่ทำไว้อย่างดี กับใบสนที่เปลี่ยนสีสุกปลั่ง
ถ้ามาตามทางหลัก ก็จะเดินสบาย ผิวทางเดินเรียบ และไม่ต้องกลัวหลงเลย

ถ้าเรามาถึง Alpe devero เที่ยวสายประมาณสิบโมง จะมีรถกลับซึ่งจะมารับที่หน้าหมู่บ้านประมาณบ่ายสามครึ่ง ซึ่งถือว่าเวลาเหลือเฟือที่เดินเล่นทั่วหมู่บ้าน แล้วเดินข้ามไป Crampiolo ก็ยังสามารถเดินกลับมาทันเวลาแบบสบายๆ ค่อยๆเดินเล่นชมบรรยากาศไปแบบไม่ต้องเร่งรีบเลย

ถ้ามาทางหลัก ก็จะมีน้ำตกอยู่ตามข้างทางให้ชม

ลุงหมอเลือกเดินอีกทางที่ผ่านทะลุหมู่บ้านขึ้นมา ก็จะเจอกับบ้านเล็กๆ น่ารักๆ ระหว่างทาง แต่ว่าทางเดินจะเล็กๆแคบๆ ไม่ได้เป็นถนนราบเรียบเหมือนเส้นทางหลัก

ระหว่างทางที่ลุงหมอเดินขึ้นมา มีจุดให้แวะถ่ายรูปได้ตลอด
สิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่พักอาศัยหรือไม่
ค่อยๆเดินขึ้นเขามาเรื่อยๆ ถ้าไม่รีบก็ไม่เหนื่อย

เดินถ่ายๆรูปเพลินๆไม่เกินสามสิบนาที ก็จะทะลุพ้นป่าสนมาเกือบจะถึงทางเข้าหมู่บ้านแล้ว

เริ่มเห็นบ้านคนอยู่ไกลๆ บ้านสีขาวทางขวามมือนั่นคือหมู่บ้าน Crampiolo

ทางเดินเข้าหมู่บ้าน ถ้ามาจากทางลัด
มองย้อนกลับไปในทางที่เดินลงมา

แต่ถ้าเราเลือกเดินตามเส้นทางหลักมาถึง หน้าหมู่บ้าน Crampiolo จะเจอถนนเรียบๆแบบนี้

ลำธารที่ไหลลงมาจากหมู่บ้าน และจะไหลต่อลงไปเป็นน้ำตกจนถึง Alpe devero
ถึงแล้ว มองเห็นสะพานข้ามไปหมู่บ้านอยู่ตรงหน้า
ยินดีต้อนรับสู่ Crampiolo

แค่สะพานข้ามหมู่บ้านก็ต้องร้องว๊าวแล้ว ตรงนี้ลุงหมอใช้เวลาถ่ายรูปอยู่นานเลย พอไม่ว่าจะวางกล้องมุมไหนก็สวยไปเสียหมด บรรยากาศก็เป็นใจมากๆ

ดอกไม้ที่ราวสะพานก็ยังบานสดใส แม้ว่าใบไม้บนเขาจะเปลี่ยนสีเตรียมเข้าสู่ฤดูหนาว

สวยทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางหมู่บ้าน หรือถ่ายย้อนกลับไป ทางเดินเข้าหมู่บ้าน

เดินข้ามสะพานมาเรียบร้อย

ลำธารหรือแม่น้ำที่ไหลริน หล่อเลี้ยงให้ Crampiolo ดูมีชีวิตชีวา แม้ว่าฤดูไฮซีซั่น(ฤดูร้อน)ของที่นี่จะเลยมาแล้ว แต่ก็ยังพอเห็นนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง

ส่วนทางขวาก็คือหมู่บ้าน ซึ่งจะมีทั้ง hostel แบบ BNB และร้านอาหาร หลังที่เห็นนี้ชื่อว่า Ristorante La Baita ลุงหมอกินข้าวกลางวันที่นี่ ถ้าใครอยากรู้ว่า สวยจนกินข้าวไม่ลงเป็นอย่างไรให้ลองมาเที่ยวที่นี่ดูสักครั้ง

Ristorante La Baita

ม้านั่ง สำหรับพักผ่อนริมลำธารกลางหมู่บ้าน ใกล้ๆกับร้านอาหารมื้อกลางวัน

มองจากระเบียงร้านผ่านไปยัง บ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของลำธาร

กินข้าวอิ่มแล้ว ก็ไปเดินสำรวจให้ทั่วหมู่บ้าน

มีใครมาแอบนั่งอ่านหนังสืออยู่หลังบ้านพัก

เวลาที่เรานั่งรถไฟข้ามชายแดนจาก Switzerland มายังเขตประเทศ Italy อาจจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง โดยเฉพาะตามสถานี รถไฟ บ้านเรือน จะมีความเนี๊ยบ เป็นระเบียบต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ใช่ ที่ Crampiolo และ Alpe devero ซึ่งอยู่ในเขตประเทศ Italy แต่ทุกตารางนิ้วของที่นี่ มีความเป็นระเบียบสวยงามแบบเป๊ะเวอร์

Oratorio San Bernardo – Crampiolo โบสถ์ประจำหมู่บ้าน

ดอกไม้ในกระถาง ดูจะเริ่มเหี่ยวเฉาลงไปบ้าง อีกไม่กี่สัปดาห์ ทั่วทั้งหมุ่บ้านก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะ ราวกับหมู่บ้านในนิทาน ที่โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง

จุดไฮไลท์สำคัญ สำหรับถ่ายภาพหมู่บ้าน Crampiolo ก็คือบริเวณเนินด้านหลังหมู่บ้าน ซึ่งมองลงมาจะเห็นบ้านเรือนเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

Crampiolo
ทางเดินขึ้นมาถ่ายรูปหลังหมู่บ้าน
มีคนมาจองมุมก่อนลุงหมอเรียบร้อยแล้ว ดูใจดีสุภาพและเป็นมิตรไม่เหมือนฝูกห่านที่ด้านล่างที่ Alpe devero

หมู่บ้านเล็กๆที่เรียงตัวเป็นรูปสามเหลี่ยม

เป็นหมู่บ้านที่ประทับใจในความน่ารักที่สุดเท่าที่ลุงหมอเคยเที่ยวต่างประเทศมา

ลงมาเดินดูรอบๆหมู่บ้านที่ด้านล่าง
หัวใจบอกว่าพอ แต่ไขข้อบอกว่ายังไหว

ได้เวลาเดินไปเที่ยวทะเลสาบ Lago Delle Streghe ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญที่สวยงามและอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

จากบริเวณ สะพานที่สอง ของหมู่บ้าน ทางเดินไป Lago Delle Streghe ให้เราเดินข้ามสะพานนี้ไป แล้วเดินวกกลับมาทางซ้าย จะมีทางเดินไปที่ทะเลสาบซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเลย แต่ถ้าเราเดินตรงเลียบลำธารขึ้นไป นั่นจะเป็นทางไปทะเลสาบใหญ่ ชื่อว่า Lago di Dévero ซึ่งลุงหมอไม่ได้ไป เพราะไม่แน่ใจว่าเวลาจะพอไหม

ป้ายชื่อหมู่บ้าน อยู่ที่สะพาน
ทางเดินเล็กๆที่จะไปยัง Lago Delle Streghe

จากสะพานนี้ เดินย้อนไปตามทาง จะเห็นทางเดินอ้อมขึ้นไปทะเลสาบ

มองโลกหลายๆมุม ผ่านหลุมบ่อ
บ้านเล็กๆ ที่อยู่ทางเดินไปทะเลสาบ

เดินตามทางไป ไม่เกินร้อยเมตรก็จะถึงทะเลสาบ

Lago Delle Streghe

บนยอดเขา มีหิมะซึ่งเพิ่งตกลงมาไม่กี่วันก่อน ทำให้ฉากหลังของทะเลสาบยิ่งดูสวยงามขึ้นไปอีก ถ้าเป็นฤดร้อนก็คงจะเป็นอีกแบบ

ถ้าน้ำนิ่งไม่มีลม ก็จะสามารถถ่ายภาพ เงาสะท้อน ได้อย่างสวยงาม ถือว่าเป็นทะเลสาบบนยอดเขาที่สวยงามอีกแห่งที่ลุงหมอประทับใจ

จากทะเลสาบ ก็เดินกลับมาทางเก่า เตรียมตัวเดินกลับลงไปให้ทันรถมารับ
ได้เวลาเดินกลับ
และนี่คือ Crampiolo หมู่บ้านในนิทานแห่งเทือกเขา Alp
ถ้ายังมีแรงเดินไหวก็ไปเถอะ !

การเดินทาง

Brig–>Domodossola by train(Swiss pass free)

Domodossola –> Baceno (bus No4 เสียค่าโดยสารเป็นยูโร)

Baceno –> Devero (ต้องโทรนัดรถมารับที่ Baceno ให้เจ้าของร้านกาแฟตรงป้ายรถที่ Baceno ช่วยโทรให้) ค่ารถไปกลับ 10 ยูโร

เพจ บ้านลุงหมอ บ้านพักญี่ปุ่นอบอุ่นทุกฤดูที่ภูเก็ต

ผู้สนับสนุนการเดินทาง

จองบ้านพัก Click
จองบ้านพัก

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.