

“ฉันตาย โดยปราศจากคนที่รักฉัน
แต่ฉันก็อิ่มใจ ว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก”
ประโยคอันซาบซึ้งจากวรรณกรรม ข้างหลังภาพซึ่ง “ภาพ” นั้น มาจากภาพวาดชื่อ มิตาเกะ ที่นพพร ได้รับเป็นของกำนัลจากหม่อมราชวงศ์กีรติ ในวันแต่งงานของตน

ไม่ว่า มิตาเกะ ในจินตนาการของทุกคนจะเป็นอย่างไร…. วันนี้ลุงหมอจะพาไปเที่ยวชมความงามของสถานที่บริเวณนั้นในฤดูใบไม้ร่วงกัน

ซึ่งแผนการเดินทางวันนี้ลุงหมอจะลองพาไปเที่ยวตามสถานีรถไฟเล็กๆ ที่ขบวนรถไฟสาย Ome วิ่งลัดเลาะไปตามแม่น้ำ Tama จนสุดสาย แล้วค่อยๆไล่ย้อนกลับมา ได้แก่ สถานี Oku-tama , Kawai, Sawai ทำไมไม่แวะ Mitake ซึ่งอยู่ ระหว่างสถานี นั้น นั่นซินะ ทำอย่างกับมีความหลังฝังใจ

ลุงหมอนั่งรถไฟ สาย Chuo rapid ไปลงที่ Tachikawa และต่อรถไฟสาย Ome หรือ Chuo local ไปลงที่สถานี Ome อีกต่อ
ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ Ome station เป็นโรงเรียน มีเสียงเด็กนักเรียนวิ่งเล่นส่งเสียงดังสนุกสนานกันแต่เช้า


เราจะขึ้นขบวนรถไฟ Ome for Oku-tama มีปลายทางอยู่ที่สถานี Oku-tama อย่าขึ้นผิดขบวน เพราะ
บางคนเห็นขบวนสีส้มเหมือนกัน ถ้าไม่ระวังอาจจะนั่งผิดไปเที่ยว เขา Takao ก็ได้
รถไฟสีส้มจะพาเราวิ่งลัดเลาะเลียบลำธารซึ่งก็คือแม่น้ำ Tama ผ่านสถานีต่างๆไปจนถึง Oku-tama



สถานีปลายทาง Oku-tama

จากตรงนี้ บริเวณหน้าสถานีจะมีรถบัสวิ่งต่อไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆได้อีกเช่นเขื่อน-อ่างเก็บน้ำ แต่ลุงหมอเลือกที่จะเดินเล่นตามเส้นทางเดินริมแม่น้ำ Tama ใกล้ๆกับสถานี Oku-tama นี่ละ


เดินออกมาที่ถนนใหญ่เพื่อหาทางเดินลงไปริมแม่น้ำ


เจอแล้ว แม่น้ำ Tama ปลายฤดูใบไม้ร่วงในช่วงต้นเดือนธันวาคม ถ้ามาช้าอีกนิดใบไม้ก็คงจะร่วงโรยหมด




น้ำใสไหลเย็นเฉียบเลย โชคดีที่ยังพอมีใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็นบ้าง ถ้าเดินทางมาสักกลางเดือนพฤศจิกายนน่าจะสวยกว่านี้



เดินข้ามสะพานแขวนมาอีกฝั่งจะเห็นป้ายแผนที่บอกทางสำหรับเดินเขา ลุงหมอเลือกเดินทางเลียบแม่น้ำที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ขึ้นไปทางขวามือ

จะมีทางเดินเล็กๆริมฝั่ง รอดใต้สะพานใหญ่ข้างบน

ทางเดินค่อนข้างจะชื้น ลื่นบ้างเพราะมีฝนตกก่อนหน้า


เดินไปจนถึงสะพานใหญ่อีกด้านค่อยเดินข้ามกลับมา

สายๆแดดอุ่นแล้วแต่ก็ยังมีคนมาก่อไฟไล่ความหนาวอยู่ริมแม่น้ำ


นั่งเล่นอยู่ริมแม่น้ำที่อยู่หน้าสถานีรถไฟสักพัก ก็เดินกลับขึ้นไป เพื่อนั่งรถไฟไปเที่ยวที่อื่นต่อ

สถานีที่สองที่จะลองแวะเที่ยว ชื่อว่า Kawai Station ความจริงก็เป็นสถานีรถไฟเล็กๆไม่มีอะไร เดี๋ยวเดินข้ามถนนไปและข้ามสะพานไปดูว่าแม่น้ำ Tama บริเวณนี้จะ มีอะไรให้ชมบ้าง เป็นการเที่ยวแบบตามใจฉันจริงๆ



มองกลับไป เห็นทางรถไฟอยู่ลิบๆ

พอเดินข้ามสะพานมาแล้ว ก็มองหาทางเดินลง ที่นี่บริเวณริมแม่น้ำจะเป็นลานหิน ไม่มีทางเดินเรียบๆ
เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยแนะนำสำหรับ ผู้สูงอายุหรือคนที่ไม่ได้ใส่รองเท้าผ้าใบแบบทะมัดทะแมง เพราะเดินยากและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ แต่ว่าใบไม้เปลี่ยนสีริมแม่น้ำสวยมากๆ


น้ำในแม่น้ำก็ใส ไม่ต่างจากที่อื่นๆ


ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีริมแม่น้ำเต็มๆแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จในการเดินทาง

เก็บเกี่ยวความสดชื่นของแม่น้ำลำธารกับแสงแดดดีๆที่นี่สักพัก ก็เดินกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานี


โบกมือลาสถานี Kawai ถัดจากนี้คือสถานี Mitake แต่ว่าลุงหมอเลือกที่จะนั่งรถไฟผ่านไป เพื่อไปแวะลงสถานีรถไฟเล็กๆที่อยู่ถัดจาก Mitake ไป ชื่อว่าสถานี Sawai

ด้วยความเป็นคนที่ไม่ชอบไปสถานที่ดังๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมักจะเยอะ เลยพยายามมองหาตรงไหนที่มันพอเที่ยวได้ไม่ลำบากแต่ก็มีความสงบเป็นส่วนตัวมากกว่า ก็เลยเลือกที่จะข้าม Mitake ไป ขออภัยด้วยนะคุณหญิง

จากสถานีรถไฟ เราต้องเดินลงไปข้างล่าง เพื่อไปยังทางเดินเล็กๆที่อยู่ริมแม่น้ำ


ที่นี่ก็ให้บรรยากาศเงียบสงบและสวยงาม และยังมีทางเดินที่ง่าย

จะเดินลงไปที่แม่น้ำเลยก็ได้แต่ต้องระวังลื่นนิด
มองย้อนขึ้นไปทางแม่น้ำ ก็จะเห็น Mitake อยู่ไกลๆ


ข้างหลังภาพ Mitake ของ คุณหญิงกีรติกับนพพรในความคิดจะงดงามต่างจากนี้หรือไม่ ต้องลองหาโอกาสไปพิสูจน์ด้วยตาตนเอง

การเดินทางมาเที่ยวบริเวณแม่น้ำ Tama ถือว่าเป็นสถานที่ที่เดินทางสะดวก ออกมาจากใน Tokyo ใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมง เหมาะกับคนที่ชอบเส้นทางแบบธรรมชาติ อยากเปลี่ยนบรรยากาศออกมาสูดหายใจลึกๆ กับลำธารใสๆ อากาศดีๆ
ยิ่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือน พฤศจิกายน ยิ่งสวยงาม
ตอนลุงหมอไปช่วงต้นเดือนธันวาคม ถือว่าเลยช่วงเวลาสวยงามของแถบนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังมีใบไม้ให้ชมอยู่
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามการเดินทาง
เพจ บ้านลุงหมอ บ้านญี่ปุ่น อบอุ่นทุกฤดู ที่ภูเก็ต


