

สวัสดีแฟนเพจทีม #ซากุระลุงหมอ ที่กำลังเฝ้ารอดอกไม้บาน
วันนี้ เราจะไปเที่ยวตามหาซากุระกันต่อ แม้ว่าในเมือง Kyoto ซากุระจะแตกยอดใบอ่อนสีเขียวกันหมดแล้ว แต่ด้วยภูมิเทศที่เป็นภูเขาทางด้านเหนือ ทำให้เมืองเกษตรกรรมเล็กๆอย่าง Ohara อาจจะยังมีความหวังในการชมซากุระ
ลุงหมอเดินทางไป Ohara วันที่ 8 เมษายน 2561 ซึ่งซากุระบานเร็วกว่าทุกๆปี แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่อย่างน้อยก็คิดในใจว่าถึงจะไปไม่ทันซากุระ เมืองเล็กๆแห่งนี้ก็ยังมีอะไรให้เที่ยวชม

เมื่อลงรถบัสสาย 17 ซึ่งวิ่งออกจากหน้าสถานี Kyoto มาสุดทางที่ Ohara เดินออกมาด้านหลังเราก็จะเจอกับ Takano river และต้นซากุระซึ่งยืนต้นอยู่ริมแม่น้ำเล็กๆที่เป็นแม่น้ำสายหลักของเมือง



เดินขึ้นไปที่สะพานแล้วมองย้อนกลับมา ทางขวาจะมีโรงเรียนประจำเมือง ลุงหมอคิดว่ามันน่าจะชื่อว่า โอฮาระวิทยา…. ตี่ง!

แม้ว่าซากุระจะอยู่ในช่วงที่เลยเวลาฟูลบลูมไปแล้ว แต่บรรยากาศเมืองเกษตรกรรมเล็กๆท่ามกลางหุบเขาก็ทำให้ที่นี่ดูน่าสนใจและคุ้มค่าที่จะเดินทางออกมาท่องเที่ยวพักผ่อน


บริเวณแม่น้ำ Takano จะไม่เจอนักท่องเที่ยวมากนัก เพราะส่วนใหญ่ทุกคนจะมุ่งไปสถานที่สำคัญที่อยู่โซนวัดฝั่งบนเขามากกว่า ลุงหมอจะพาเดินชมบรรยากาศสบายๆแถวนี้ดู


ทุ่งดอกผักกาดสีเหลืองสดใสตัดกับยอดสีชมพูอ่อน สมกับเป็นเมืองเกษตรกรรม



ทิวเขาที่มองเห็นด้านหลังไกลๆ มีซากุระป่าแต่งแต้มระบายสีให้ Ohara ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาในฤดูใบไม้ผลิ



ยังมีซากุระต้นสีชมพูสดสียืนเด่นอยู่ลำพังกลางทุ่ง

ส่วนซากุระสายพันธุ์หลักนั้นโรยไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงสีขาวๆที่ปลายยอดให้พอชื่นใจ




ภาพของเมืองเกษตรกรรม กับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะผ่านพ้นไป




ผ่านโซนไร่นาแล้ว ถ้ามาเที่ยว Ohara ทั้งทีก็ต้องไปสถานที่สำคัญ นั่นคือ วัด Sanzen-in อันสวยงามและมีชื่อเสียงทีสุดของเมือง

ทางไปวัด Sanzen-inจะมีผู้คนนักท่องเทียวเดินนำไปไม่ต้องกลัวว่าจะไปไม่ถูกเพราะใครๆก็มุ่งไปที่นี่ สองข้างทางจะมีร้านขายของที่ระลึก กับร้านขนมของว่างให้แวะพักผ่อนจิบชา หรือรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ไม่ต้องกลัวว่ามาแล้วจะอด

ทางเดินขึ้นไปวัดจะมีลำธารเล็กๆและเสียงน้ำไหลทำให้บรรยากาศดูสดชื่นตลอดเวลา นอกจากนี้ต้นเมเปิลที่อยู่ข้างลำธารยังมีจำนวนมาก ลุงหมอแอบเล็งๆไว้ว่า ช่วงฤดูใบ้ไม้เปลี่ยนสีที่นี่คงจะสวยงามมากแน่ๆ ถ้ามีโอกาสคงจะไม่พลาดที่จะกลับมา

มาถึงประตูทางเข้าวัด ยังมีซากุระสายพันธุ์ย้อยสวยๆให้ถ่ายรูปอยู่ต้นสองต้น

ค่าผ่านประตูสำหรับเข้าวัด 700 เยน ภายในวัดจะมีจุดเด่นคือ สวนมอส และรูปปั้น ที่ใครได้เข้ามาภายในสวนก็ต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก





เมือง Ohara ถือเป็นเมืองเกษตรกรรมเล็กๆ แม้จะต้องใช้เวลาเดินทางออกมาจาก Kyoto สักหน่อยโดยเฉพาะช่วงฤดูไฮซีซั่นของ Kyoto ซึ่งรถจะค่อนข้างติด ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึง แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่น่าสนใจ และควรหาโอกาสแวะไปเยี่ยมชม
การเดินทาง นั่งรถบัสสาย 17 จากหน้าสถานี Kyoto มาลงสุดทางที่ Ohara หรือนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Kokusaikaikan Station แล้วนั่งรถบัส สาย 19 (อาจจะช่วยประหยัดเวลาในช่วงรถติดได้)
ผู้สนับสนุนการเดินทาง เพจ บ้านลุงหมอภูเก็ต
บ้านพักญี่ปุ่นอบอุ่นสำหรับครอบครัว



3 thoughts on “Ohara : in Spring time”