

สวัสดีเพื่อนๆแฟนเพจ ลุงหมอขอพักร้อน ที่จดจ่อรอคอยกับฤดูกาล วันนี้ลุงหมอจะนำเพื่อนๆไปรู้จักกับ สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญอันดับต้นๆ ของ Shiga ซึ่งเป็นบริเวณภูมิประเทศ พื้นที่รอบๆ ทะเลสาบ Biwako ทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา Mitakayama ที่ Nagahama มีชื่อว่าวัด Keisoku-ji
จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ ทางเดินที่เป็นขั้นบันไดไปยังด้านบนเขาและปกคลุมด้วย momiji สีแดงเข้ม จนได้ฉายาว่า Red carpet

ถ้าจะเปรียบเทียบกับ Bishamondo วัดที่มีจุดเด่นเป็นพรมแดงบนขั้นบันไดคล้ายกัน ซึ่งอยู่ใกล้ๆตัวเมือง Kyoto ที่ Keisoku-ji ดูจะมีลักษณะเป็น “วัดป่า” มากกว่า ลักษณะขั้นบันไดก็เป็นธรรมชาติ ดูลึกลับมีมิติ เมื่อถ่ายภาพออกมา แต่ถ้าถามว่าคนน้อยกว่าไหม ลุงหมอตอบไว้ก่อนเลยว่าไม่ เพราะตอนสายๆจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่อย่างคับคั่งทั้งรถยนต์รถทัวร์และคนที่เดินทางมาด้วยตัวเอง

เมื่อเดินทางมาถึง จะมีลานจอดรถของวัดอยู่ด้านนอก ตัววัดจะอยู่เข้าไป ชิดกับภูเขาที่เป็นป่า เราต้องเดินตัด ทุ่งนาข้ามไป ทางเดินเข้าวัดจะมองเห็นอยู่ไกลๆทางขวามือ ส่วนเต็นท์ที่มาตั้งตามทาง คือที่ขายของฝากและผลิตผลการเกษตรของชาวบ้านแถบนี้


ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมาก ก็จะมีชาวบ้านนำสินค้าเกษตรกรรม และของที่ระลึกมาตั้งแผงจำหน่ายอยู่บริเวณทุ่งนาที่เป็นพื้นที่ทางเดินเข้าวัด
ถ้าใครมาถึงสาย รถแทกซี่อาจจะไม่ได้เข้าไปส่งถึงข้างใน เราจะต้องค่อยๆเดินตามผู้คนเข้าไป แล้วเดินขึ้นไปผ่านศาลเจ้าที่เห็นอยู่ในภาพ เดินไปเรื่อยก็จะมองเห็นทุ่งนาและทางเข้าวัดอยู่ทางขวามือ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเพราะมีคนมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้เยอะมาก


ดอกคอสมอสที่ชาวบ้านปลูกไว้ริมถนนกำลังบานสวย แม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

หลังจากผ่านทุ่งนา ก็จะมีทางเดินตัดทะลุป่าสนไปอีกประมาณสองร้อยเมตร เป็นเนินขึ้นเขาที่ไม่ชันมากนัก แสงแดดยามเช้า เพิ่งจะแทงทะลุแนวต้นสนเข้ามา บอกให้รู้ว่าวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะถ่ายภาพได้สวยงามอีกวันหนึ่ง

เมื่อเดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะมาโผล่ตรงหน้าวัดซึ่งจะมี ต้นไม้สีสันจัดจ้านอยู่รอบบริเวณพื้นที่ ลุงหมอมาถึงแต่เช้า ทางวัดยังไม่ทันตั้งซุ้มขายบัตรตรงทางเดินเข้ามา (ค่าบัตรราคา 200 เยนเท่านั้น)

ตรงนี้คืจุดที่ช่างภาพและนักท่องเที่ยวจะมามุ่ง ถ่ายภาพพรมแดงที่ปกคลุมทางเดินขั้นบันได

Red carpet ที่ทุกคนอยากมาเห็นคือมุมนี้ ซึ่งเขาจะมีราวไม้ไผ่กั้นไว้ ไม่ให้คนเดินย่ำขึ้นไป ต่างจากบันไดที่วัด Bishamondo ที่จะมีคนเดินขึ้นลงตลอดเวลา ทำให้โอกาสที่จะถ่ายภาพพรมแดงที่วัด Keisokuji มีมากกว่าหากมาถูกช่วงเวลา ใบไม้ก็จะไม่ถูกย่ำเสียหายไป

ด้านบน ยอดไม้ เต็มไปด้วยสีสัน แดงจัด รอเวลาที่ลมและฝนจะพัดพาใบไม้แก่จัดให้ร่วงลงมาทับถมเป็นพรมสีแดงสะดุดตา ถ้ามาช่วงหลังฝนตกใบไม้บนพื้นก็จะยิ่งสวย


ถ่ายภาพจากด้านบนลงไปบ้าง ปกติจะต้องมีช่างภาพและผู้คนยืนรุมเบียดกันอยู่หลังราวไม้ไผ่ข้างล่าง แต่วันนี้ลุงหมอมาถึงเช้าหน่อย เลยยังไม่ค่อยมีคนมากนัก

ใบไม้บนพรมแดงวันนี้ไม่สดอิ่มน้ำ ถ้าเป็นช่วงหลังฝนตกน่าจะได้เห็นใบไม้สดๆที่สีสันสดใสมากกว่านี้ เหมือนในภาพตามโปสเตอร์ที่ช่างภาพมืออาชีพเขาถ่ายมา


Momiji แดงจัดจ้าน ที่อยู่รอบบริเวณ รอเวลาที่ค่อยๆร่วงลงมาเต็มพื้น




เพลิดเพลินชมใบไม้ไปเรื่อยๆในยามเช้า

เมื่อถ่ายภาพตรงจุดไฮไลท์จนพอใจแล้ว ก็เดินไปตามทางด้านข้าง เพื่อไปชมจุดที่น่าสนใจอีกแห่ง

บริเวณอีกฝั่งจะมีจุดชมใบไม้และถ่ายภาพที่สวยงามอยู่ เป็นอาคารหลังเล็กๆ ตรงนี้ลุงหมอไม่มั่นใจข้อมูลว่า เป็นวัด Keisoku-ji หรือเป็นวัดที่แยกมาอีกวัดหนึ่ง



ม่านใบไม้สีเหลืองส้ม ประดับประดาเป็นฉากหน้าอาคาร


เดินลงไปสักนิดก็จะเจอสระน้ำ ที่ถ่ายภาพเงาสะท้อน สวยงาม


ช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาชม และถ่ายภาพ red carpet นั้นอยู่ราวๆกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน (ที่ Shiga ใบไม้จะเข้าสู่ช่วงพีคเร็วกว่าใน Kyoto ประมาณเกือบสัปดาห์)


“อย่าตามหาคนที่ชอบใบไม้สีเดียวกัน แค่คนที่ชอบมองใบไม้เหมือนกันก็พอ”

การเดินทาง วัด Keisoku-ji อยู่ที่ Nagahama ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบ Biwa และอยู่ตอนเหนือสุดของ Shiga เราต้องนั่งรถไฟ (แนะนำให้นั่งรถด่วนลงที่ Maibara ) มาลงที่ nagahama แล้วต่อรถไฟขบวน local จาก Maibara หรือ nagahama มาลง สถานี Kinomoto
จากสถานีรถไฟ Kinomoto จะมีรถบัสวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังวัด Keisoku-ji แต่ถ้าใครมาถึงเช้าแล้วอยากรีบเดินทางไปวัดไวๆก็อาจจะเรียก taxi ให้ไปส่ง (ราคาประมาณ 2500 เยน) ส่วนขากลับค่อยนั่งรถบัสกลับก็ได้
ผู้สนับสนุนการเดินทาง
เพจบ้านลุงหมอ https://www.facebook.com/uncledoctorhome/
บ้านพักญี่ปุ่น อบอุ่นทุกฤดูที่ภูเก็ต



2 thoughts on “Keisoku-ji วัดพรมแดง แห่ง Shiga”