วิธีการของมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ก็คือ พวกเขาจะทำให้เหยื่อตกใจกลัว และเผลอทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายด้วยความขาดสติ

ฉันยกโทรศัพท์กดเลขหมายไปยังเบอร์คุ้นเคยด้วยเสียงที่ไม่เคยใช้ในบ้าน

“นั่นคุณเต้าส้อ พ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ใช่ไหมครับ?”

“ค่ะ ใช่ค่ะ” เสียงเหยื่อ ตกใจนิดหน่อยเมื่อปลายสายเอ่ยชื่อนามสกุลอย่างถูกต้องทุกประการ

“ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า บัตรกดเงินเลขที่ xxx-xxx-xxx ได้มีการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศอย่างผิดสังเกตจำนวนสองแสนกว่าบาท”

“ทำอย่างไรได้บ้างคะ” น้ำเสียงเหยื่อตกใจ แต่พยายามตั้งสติ

“หากต้องการระงับการใช้จ่ายดังกล่าว คุณเต้าส้อ กรุณากดเลขประจำตัวแมว ตามด้วยรหัสพินหกหลัก ทางธนาคารจะรีบดำเนินการระงับยอดดังกล่าวให้ทันที”

ปลากำลังจะงับเหยื่ออย่างง่ายดาย….

“น้าตูโบ้สั่งให้ระงับบัตรแล้วค่ะ ตั้งแต่ตาตาออกจากบ้าน แม่ถามว่าตาตาจะกลับวันไหน?”

“นังเต้าส้อ!” ฉันกะจะฉกตังค์นังเต้าส้อสักสี่ห้าหมื่น มานอนโรงแรมหรูเพื่อถ่ายคอนเทนท์สักหน่อย

สวัสดีแฟนเพจที่ติดตามการเดินทาง การจะไปนอนพักโรงแรมคืนละสี่ซ้าห้าหมื่นที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ถือว่าแพงสำหรับคนที่มีลูกสาวที่เป็นเวิร์คกิ้งวูแมนแบบตาไฝ วันนี้จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับโรงแรมหรูบนยอดเขาติดทะเลสาบลูเซอร์น ที่ดาราและคนมีชื่อเสียงบ้านเรานิยมไปพัก และถ่าย vdo ทำคอนเทนท์กันมากที่สุดแห่งหนึ่งในช่วงหลังมานี้

วิวพาโนรามิคทะเลสาบลูเซอร์น

จากโรงแรม Bürgenstock resort

การเดินทางจากเมือง Luzern มายัง Bürgenstock resort จะมีสองวิธีหลัก โดยวิธีที่แนะนำก็คือ นั่งเรือจากท่าเรือ Luzern (Bahnhofquai) แล้วมาต่อรถรางที่จะพาขึ้นไปยัง resort ซึ่งจะแล่นรับส่งกันตามเวลา (ชั่วโมงละเที่ยว)

สำหรับผู้ที่ใช้บัตร Swiss Travel pass จะใช้นั่งเรือได้ฟรีทั้งไปและกลับ และใช้เป็นส่วนลดสำหรับรถรางได้ครึ่งราคา (ถ้าขึ้นอย่างเดียว ลดเหลือ 15 CHF) ส่วนขากลับถ้านั่งรถบัสกลับลงอีกทางก็ไม่เสียเงิน แต่ถ้าจะนั่งรถรางลง ก็ต้องเสียค่าตั๋วรถรางแบบไปกลับ

วันนี้ลุงหมอเลือกวิธีมาทางเรือ แล้วกลับรถบัสไปลงที่ Stansstad เพราะจะได้ชมวิวสองแบบ

นั่งเรือเพลินๆ ชมบรรยาการรอบริมทะเลสาบลูเซอร์น ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึง เพราะอยู่ใกล้กันมาก

Bürgenstock อยู่ในเขตรัฐ Nidwalden แต่ว่าติดกับเขตรัฐ Lucern จนแยกไม่ออก ทัศนียภาพและภูมิประเทศในสองรัฐนี้จะคล้ายๆกัน ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีเชอร์รี่บานให้เห็นเยอะพอสมควร และที่ลุงหมอเลือกมาที่ Bürgenstock ก็ตั้งใจมาถ่ายรูปเชอร์รี่ที่แถวๆท่าเรือ

นั่งเรือเพลินๆแป๊บเดียวก็มาถึงท่าเรือ Kehrsiten-Bürgenstock

รถรางขึ้นรีสอร์ทก็จะจอดรออยู่ โดยเที่ยวของรถรางขึ้นรีสอร์ทจะสอดรับกับเรือที่พาแขกและนักท่องเที่ยวมาส่งที่ท่าเรือพอดี และลุงหมออยู่ถ่ายรูปและเดินเล่นแถวท่าเรือ รอเที่ยวถัดไป ก็จะมีเวลาหนึ่งชั่วโมง

เชอร์รี่ต้นน้อย ที่ปลูกอยู่ใกล้สถานีรถราง

ไปเดินเล่นสำรวจ บริเวณใกล้ท่าเรือกันก่อน มีเวลาเหลือเฟือเลย

ต้นเชอร์รีกำลังบานสวยทีเดียว

มองขึ้นไปเห็นโรงแรมอยู่ด้านบน บนยอดเขานอกจากจะมีโรงแรม Bürgenstock resort แล้ว ยังมีโรงแรมหรูอีกหลายแห่ง ส่วนสนนราคาเพื่อนๆก็ลองเข้าไปเชคดูกันได้ มีหลายแบบ หลายราคา แต่ละฤดูราคาก็จะแตกต่างกัน กำเงินแสนไปรับรองว่าได้นอนแน่

เรือแล่นกลับไปรับแขกที่ท่าเรือ Luzern ในเที่ยวถัดไป

บรรยากาศในฤดูใบไม้ผลิ รอบๆท่าเรือ

ดูท่าทางท้อแท้กับค่าครองชีพมาก เหมือนอยากจะไปอยู่เมืองร้อน

ทักทายกับแมวลายขาวดำสักแป๊บก็ได้เวลาขึ้นรถรางแล้ว

รถรางที่พาเราแล่นขึ้นไปที่รีสอร์ทใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ถือว่าเป็นการชมบรรยากาศทะเลสาบลูเซอร์น และต้นเชอร์รี่น้อยๆในฤดูใบไม้ผลิ

ขึ้นมาถึงโรงแรมแล้ว มองจากมุมสูงลงไปยังบ้านเรือนแถบ Kehrsiten ติดทะเลสาบ Luzern

ความจริงไฮไลท์สำคัญของการมาเที่ยว Bürgenstock นอกจากการมาพักโรงแรมหรูแล้ว ที่นี่มี Outdoor elevator หรือลิฟท์นอกอาคารที่สูงที่สุดในยุโรป ชื่อว่า Hammetschwand Elevator ซึ่งจะมีทางเดินเท้าไปจากโรงแรม และวิวจากบนนั้นก็สวยมาก แต่ว่าวันนี้ลุงหมอไม่ได้เดินไปเที่ยว เพราะว่าหมดอารมณ์กับนังเต้าส้อ!

วิวอีกฝั่งจากโรงแรม

วิวฝั่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้ฝั่งทะเลสาบ แต่จะต้องนั่งรถบัสขึ้นมา เพราะว่าขาลงรถจะวิ่งลงอีกทาง ไปยังสถานี Stansstad

ฉันบอกกับเต้าส้อว่า ถ้าแกอยากเป็นอินฟูเอ็นเซอร์ แกต้องรู้จักลงทุนหาคอนเทนท์ที่มันเด็ดมันโดน เพื่อยอดไลค์กับยอดฟอลจะตามมา มันย้อนฉันว่า “ยอดเงินในบัญชี สำคัญกว่า”

ป้ายรถบัสจะอยู่หน้าโรงแรม ชื่อว่า ป้าย Bürgenstock, Zentrum โดยนั่งบัสสาย 321 ไปลงสถานี Stansstad

วิธีการเดินทาง

เพจ บ้านลุงหมอภูเก็ต บ้านพักญี่ปุ่นอบอุ่นทุกฤดู

จองบ้านพัก Click