เรื่องปาฏิหาริย์ของแมวชื่อ ซิมบ้า

เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก

มีความเชื่ออยู่ว่า ไม่ว่าไกลแค่ไหน แมวก็จะหาทางกลับบ้านของตัวเองจนได้ ฉันอยากจะเล่าเรื่องนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ใครที่กำลังตามหาแมวของตัวเองที่หายออกจากบ้าน …

สำหรับคนทั่วไปอาจะคิดว่านี่มันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่สำหรับการมีชีวิตรอดต่อไปของแมวตัวหนึ่ง…และสำหรับฉัน นี่ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์หรือเรียกว่าปาฏิหาริย์เลยทีเดียว!

สี่วันก่อน ฉันจับแมวตัวผู้จากสนามกีฬามาสองตัวเพื่อที่จะไปส่งหน่วยทำหมันของมูลนิธิ Soi dog ที่ฉันได้นัดคิวเอาไว้ แมวสองตัวนี้เป็นแมวจรที่ค่อนข้างเชื่องเพราะมีคนให้อาหารอยู่ประจำ แต่ด้วยความเป็นแมวตัวผู้ บางที่เขาก็จะหายหน้าไปสองสามวันแล้วก็กลับมาตามแต่อารมณ์และฮอร์โมนที่พุ่งพล่านในร่างกาย แถวในสนามกีฬาไม่มีแมวสาวเจริญพันธุ์ เพราะฉันจับทำหมันเรียบร้อยหมดแล้ว

ฉันจึงจับแมวตัวผู้สองตัวนั้นมาใส่กรง เอาไว้ข้างบ้านล่วงหน้าก่อนสองคืนเพราะ กลัวว่าถ้าไปรอจับคืนก่อนส่งทำหมันในวันรุ่งขึ้นทีเดียว อาจจะไม่เจอตัว ทำให้เสียคิวได้

แต่รุ่งเช้า แมวสองตัวนั้นหายออกจากกรงไป โดยที่ประตูกรงเปิดไว้ ฉันอาจจะปิดประตูไม่สนิทเอง หรือมันเปิดกรงออกไปได้ ฉันเที่ยวออกตามหา ทั้งเช้า บ่าย เดินไปตามบ้านในระแวกนั้นด้วยความเป็นห่วง

บ้านในระแวกนั้นเป็นทาวน์เฮาส์ ส่วนใหญ่ก็จะเลี้ยงแมวกันไว้แทบจะหลังเว้นหลัง ฉันหวังว่าพวกมันคงไม่เตลิดไปไกล และมั่นใจว่าแมวสองตัวนั้นรู้วิธีเอาตัวรอด

ถึงตอนค่ำ ฉันไปเดินวนดูอีกรอบก็ไม่พบ แต่ดันตาไวไปเห็นบ้านหลังหนึ่งมีลูกแมวกำลังเล่นซน และแม่แมวคอยเฝ้าอยู่

พอดีเจอกับเจ้าของบ้าน ฉันเลยถามว่าเห็นแมวหลงมาบ้างไหม เขาว่าไม่เห็น คิดได้ว่าแมวจรแปลกถิ่นถ้าหลงมาเจอแม่แมวหวงลูก แม่แมวเขาคงไม่ยอมให้แมวแปลกหน้าเข้ามาอยู่แถวนี้ พรุ่งนี้คงไม่ได้พาแมวสองตัวนั้นไป

ฉันนึกยังไงไม่รู้เลยถามเจ้าของแมวว่าอยากทำหมันให้แม่แมวไหม ดูอายุลูกแมวน่าจะหย่านมได้แล้ว เขาว่าอยากทำพอดี ฉันบอกว่าพรุ่งนี้มีคิวทำหมันฟรีที่หน่วยว่างสองที่ เพราะแมวที่จองไว้หลุดหายไป แมวที่ฉันมาเดินหา

ฉันรับอาสาจะพาไปส่งให้แล้วรับกลับ แต่ให้เขาพาแมวไปไว้ในกรงข้างบ้านฉันที่อยู่ใกล้ๆ

เขาว่างั้นขอฝากมู่(พ่อของเด็กๆ) ไปด้วยอีกตัว แต่มูมู่ดื้อ จะเอาใส่ตระกร้าตามไปพรุ่งนี้เช้า คืนนั้นมีมี่แม่แมวสามสี มาอยู่ในกรงข้างบ้าน

รุ่งเช้าเขาพามูมู่แมวลูกครึ่งเปอร์เซียหน้าเฟี้ยวมาส่ง แต่มูมู่ตกใจกลัวแหกตระกร้าวิ่งหนีกลับบ้านไป

ฉันเลยพามี่ไปทำหมัน แล้วนัดคิวให้มูมู่ใหม่ในสองวันถัดไป คราวนี้ฉันเอากรงหิ้วแบบมีฝาล็อคไปให้เขาที่บ้าน แล้วนัดกันไว้ว่าตอนเช้าวันศุกร์ให้เอามู่ใส่กรงหิ้วมาตั้งไว้ข้างบ้านเหมือนเดิม

@@@

พอดีช่วงนี้มะม่วงแมวที่ฉันเก็บมาจากโรงพยาบาลอาเจียนหลายรอบ เมื่อคืนฉันเลยแยกเขามาใส่กรงไว้ข้างบ้านเพื่อดูอาการแยกจากตัวอื่น เช้ามาก็ตั้งอาหารเปียกไว้ให้ แล้วขึ้นไปแจกข้าวตักกระบะทรายให้แมวบนบ้าน

พอเสร็จจากข้างบนลงมา มูมู่ก็ถูกหิ้วใส่ตระกร้ามาตั้งไว้ข้างบ้านตามที่นัดไว้ แต่ว่ามะม่วงของฉันหายไปจากกรง!

ฉันตกใจมาก แต่คราวนี้ฉันมั่นใจว่าประตูกรงปิดไว้อย่างดีแล้ว เพราะแมวจรเพิ่งหลุดไปไม่กี่วัน ฉันต้องระวังเป็นพิเศษ ฉันคิดว่ามีคนอุ้มมะม่วงไปจากกรงแน่ๆ

มะม่วงเป็นแมวลูกครึ่งเปอร์เซีย ที่ถูกคนเอามาทิ้งที่โรงพยาบาล สภาพตอนที่เจอเขา เหมือนกับโทรศัพท์ที่แบตเตอรี่ ขึ้นขีดสีแดงแต่ยังหาที่ชาร์จไม่ได้

สภาพวันแรกที่เจอ

เขาเที่ยวเดินตากฝนอยู่กลางถนนโดยไม่หลบรถ ฉันเอาผ้าขนหนูไปห่อตัวอุ้มมาใส่กรงไว้ใต้บันไดแฟลต ตอนแรกที่ยังไม่ทันได้สำรวจบาดแผลอะไร ตัวเขาฟุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็น มารู้ทีหลังว่าเป็นกลิ่นจากแผลอักเสบในปากที่ติดเชื้อรุนแรง ร่องรอยเดียวที่บอกว่าเขาเคยได้รับการดูแลคือ ยาสีม่วงๆที่ป้ายอยู่รอบคอ (ฉันจึงเรียกเขาว่ามะม่วงในเวลาต่อมา)

วันรุ่งขึ้นฉันโทรติดต่อมูลนิธิเพื่อขอความช่วยเหลือ ทางมูลนิธิ Soi dog ส่งทีมคุณหมอพร้อมเจ้าหน้าที่มา พบว่ามะม่วงเป็นแผลอักเสบรุนแรงในช่องปากและร่างกายขาดน้ำรุนแรงเนื่องจากคงจะกินข้าวกินน้ำไม่ได้มาหลายวัน ลิ้นเขายื่นมีน้ำลายหยดตลอดเวลา

หลังจากคุณหมอได้ฉีดยาแก้อักเสบ ให้น้ำเกลือเข้าใต้ผิวหนังอยู่สองสามวัน เขาก็เริ่มกินอาหารเปียกได้ ทำให้ร่างกายเขาค่อยๆฟื้น ผ่านช่วงวิกฤติของชีวิตไปได้

แรกทีเดียวฉันคิดว่าถ้าอาการมะม่วงดีขึ้นก็จะให้เขาอยู่แถวแฟลตแพทย์ต่อไป แล้วค่อยลองหาบ้าน ให้เขา ดูท่าทางเขาไม่น่าจะไปเที่ยวซนที่ไหนไกลๆ

แต่จนแล้วจนรอดพอผ่านไปสักระยะฉันก็ตัดสินใจพามะม่วงมาอยู่ที่บ้านด้วยจะได้ดูแลง่ายกว่า อยู่ตรงนั้นก็ต้องคอยเป็นห่วงว่าเขาจะเดินลงถนนรถราเฉี่ยวชน หรือต้องคอยพะวงว่าเขาจะหลงหายไปไหนตอนฉันไปทำงาน

รู้ทั้งรู้ว่าโอกาสจะหาบ้านให้มะม่วงคงไม่ง่ายเพราะเขาเป็นแมวโตแล้วและยังดูสุขภาพไม่แข็งแรง แต่น่าก็จะลองให้โอกาส ดีกว่าปล่อยให้ใช้ชีวิตเป็นแมวจรต่อไป อย่างมากถ้าหาบ้านให้ไม่ได้ ก็ตกเป็นแมวบ้านฉันอยู่กับสามสิบกว่าชีวิต

สามสัปดาห์ผ่านไป

พอมาอยู่ที่บ้านมะม่วงไม่เข้ากับใคร เขาชอบนอนที่ระเบียงหลังบ้าน มองดูต้นไม้ และนกที่เกาะตามหลังคาบ้านเรือน สุขภาพเขาค่อยๆดีวันดีขึ้น จนกระทั่งมาไม่สบายถ่ายท้องแล้วก็อาเจียน ไม่ค่อยกินข้าวเมื่อสองวันนี้

พอรู้ว่ามะม่วงหายไปเช้านี้ ฉันยิ่งเป็นห่วงและใจหาย ได้แต่หวังว่าอาจจะเป็นกรณีคล้ายๆกับหนมจีนที่มีฝรั่งพาไปเล่นที่คอนโดแค่วันเดียวแล้วก็เอามาคืน แต่มะม่วงไม่ใช่ลูกแมวน่ารักอะไรขนาดนั้น

ฉันไม่มีเวลาตามหามะม่วงมากมายนักเพราะต้องรีบขับรถไปส่งมู่ทำหมันตามที่นัดไว้ พอไปถึงหน่วยทำหมันก็มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี เป็นเจ้าของมู่ กับมี่ แมวในหมู่บ้านที่ฉันรับอาสาพามาทำหมันให้

เขาว่าขอโทษทีที่เมื่อเช้าเอามูมู่ใส่ตระกร้าไปส่งให้ พอดีเขาเห็นแมวในกรง เป็นแมวของเขาที่หายไปหลายอาทิตย์ก่อน เลยอุ้มกลับบ้านมาด้วย เขาลืมพกโทรศัพท์ไปด้วยเลยไม่ได้โทรบอกฉันก่อน

แมวตัวนั้นชื่อ ซิมบ้า เขาเป็นลูกของมูมู่ กับมีมี่!

ที่แท้มะม่วงชอบนอนเล่นตรงนั้นเพราะมองเห็นหลังคาบ้านตัวเองอยู่ไม่ไกล เขาใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อหาทางกลับมาบ้านของตัวเอง

พอเห็นรูปถ่ายตอนเด็กและตอนก่อนที่เขาจะหายออกจากบ้าน ทำให้รู้ว่า มะม่วงไม่ใช่แมวที่ถูกทิ้ง แต่เป็นแมวที่หลงทางออกจากบ้าน เขาเป็นลูกคนโตของบ้าน ก่อนที่มีมี่แม่ของเขาจะมีน้องอีกสองคนตามมา

ระยะทางแค่กิโลกว่าจากโรงพบาบาลมายังบ้านอาจจะดูไม่ไกล แต่ก็อาจจะไม่ใกล้สำหรับแมวหลงทาง ในที่สุดมะม่วงก็หาบ้านตัวเองจนพบ

ระยะทางจากบ้านไปสนามกีฬาก็พอๆกัน ฉันหวังว่าแมวสองตัวนั้นก็จะหาทางกลับบ้านของพวกมันจนเจอ.

มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทุกวันบนโลกใบนี้ แค่เราช่วยสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆสักตัว ที่กำลังลำบาก นั่นคือปาฏิหาริย์สำหรับเขาแล้ว.

End.

กับมีมี่ แม่ของเขา
ซิมบ้า กับน้องๆจอมซน
Atlas Cat

หมายเหตุ ปัจจุบันซิมบ้าได้กลายมาเป็นแมวในบ้านฉันอย่างถาวร เพราะเขาชอบวิ่งมาหาที่บ้านแล้วก็ไม่ยอมกลับบ้านตัวเอง

4 thoughts on “เรื่องปาฏิหาริย์ของแมวชื่อ ซิมบ้า

  1. ขอบคุณความใจดีที่ตาตามีให้แมวจรทุกตัว อ่านจบ อิ่มใจมากค่ะ

    Like

Leave a reply to Anonymous Cancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.