

สวัสดีแฟนเพจลุงหมอขอพักร้อนที่เฝ้ารอฤดูกาล
วันนี้ลุงหมอจะพาเพื่อนๆไปแนะนำสถานที่พิเศษ เป็นคาเฟ่เล็กๆริมแม่น้ำ Kizu อยู่ที่ Kasagi ..เมืองเล็กๆแสน slow life ทางตอนใต้ของ Kyoto
คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อเหมือนบรรยากาศของเมือง นั่นคือ Slow Life Cafe

ด้วยบรรยากาศที่พิเศษสุด แค่นั่งปล่อยใจไปกับซากุระต้นงามที่อยู่ริมแม่น้ำ ตรงระเบียงด้านนอกของร้าน ก็สุขเกินบรรยาย

โค โระ สึ(สุ) เกะ เป็นสุนัขชิบะอินุ ที่เจ้าของร้านเลี้ยงไว้ ทุกๆวันที่อากาศดี โค โระ สึ เกะ ก็จะออกมานั่งดูวิวที่ริมแม่น้ำ เฝ้าต้นซากุระของเขา ที่บริเวณสวนเล็กๆของร้าน


การเดินทางจางเมือง Kyoto นั้น เราต้องนั่งรถไฟ JR จาก Kyoto station ลงมาทางใต้ เกือบๆจะถึงเขต Nara โดยต้องต่อรถที่สถานี Kizu ไปยังสถานี Kamo
และจากสถานี Kamo ก็จะมีรถไฟสาย Kansai line ขบวนสีม่วง ซึ่งจะมีเพียงหนึ่งถึงสองโบกี้ แล่นออกจาก Kamo ไปเพียงหนึ่งสถานีก็จะถึง Kasagi station แต่ว่าตอนลงรถไฟจะต้องจ่ายค่าโดยสายกับคนขับรถ เนื่องจากสถานีเล็กๆจะไม่มีที่แตะบัตร ถ้าใครใช้บัตรแตะ icoca หรือ suica มาตั้งแต่ต้นทาง ก็แจ้งกับคนขับตอนจ่ายเงินว่าเรานั่งมาจากสถานีไหนตั้งแต่ต้น

จากสถานี Kasagi เราต้องเดินออกมาข้ามสะพานเล็ก แล้วก็เลี้ยวซ้าย เพื่อข้ามสะพานใหญ่ (Kasagi bridge) ของแม่น้ำ Kizugawa ไปยังร้าน slow life cafe อันเป็นจุดหมายในวันนี้


เมื่อเดินข้ามสะพาน Kasagi bridge ซึ่งจะเป็นสะพานรถยนต์คู่กับทางเดิน ไปยังฝั่งตรงข้าม ก็จะเจอกับร้าน Slow life cafe อยู่ตรงเชิงสะพาน ติดถนนใหญ่

ร้าน Slow life Cafe โดดเด่นตั้งอยู่ที่เชิงสะพาน Kasagi bridge





ดูเหมือนว่า โค โระ สึ เกะ จะไม่ถูกใจสิ่งนี้
ทันทีที่ได้ยินเสียงคนแปลกหน้า โค โร สึ เกะ ก็ส่งเสียงเห่า วิ่งพรวดออกมาจากบ้านหลังเล็กที่กำลังพักผ่อนอย่างสบายใจ ดูท่าจะไม่พอใจมากๆเสียด้วยที่มีใครก็ไม่รู้มาร้องเรียก




ที่ตั้งของ Slow life cafe นั้นอยู่ในจุดที่สวยงาม วิวแม่น้ำฝั่งตรงข้าม กับซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง เข้ากับชื่อร้านและบรรยากาศของเมืองเป็นอย่างดี





ระเบียงนั่งรับประทานอาหารของร้าน กับซากุระ ที่กำลังสวยงามเต็มที่







ด้านนอกของร้านที่ติดถนน จะมีภาพวาดอยู่ แต่ตรงประตูนี้ไม่ใช่ทางเข้า เราต้องเดินไปเข้าตรงสวน

เจ้าของร้าน เป็นหนุ่มญี่ปุ่น อัธยาศัยดี สามารถสื่อสารภาษาอังกฤกษได้ด้วย และที่สำคัญเป็นคนที่คุยกับ โค โระ สึ เกะ ได้รู้เรื่องเพียงคนเดียว







บันไดขึ้นชั้นสอง ถ้าใครจะเดินขึ้นไป อย่าลืมเปลี่ยนรองเท้าที่เจ้าของวางไว้ให้ในตู้ซะก่อน



แต่ที่ต้องการ เมื่อมาถึงร้านในฤดูนี้ ก็คือระเบียงวิวแม่น้ำที่อยู่ด้านนอก








ตัวอย่างเมนู ของร้าน ซึ่งจะสลับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน เจ้าของร้านเขาจะโพสต์ภาพเมนูให้ดูในหน้าเพจร้าน ทุกวันที่ร้านเปิด แต่ว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด

ถ้าใครอยากไปแล้วกลัวสั่งไม่ถูก อาจจะเซฟภาพอาหารไปก่อนก็ได้


ถ้าของคาว ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูพิซซา พาสต้า







ถึงตอนนี้กลีบซากุระ ได้ปลิวตามลมหลุดร่วงไปตามฤดูกาลที่ผ่านพ้นไป ต้นซากุระที่หลังบ้านกลายเป็นสีเขียว แม่น้ำยังคงไหลเอื่อยไป โค โระ สึ เกะ จะเหงาไหม หวังว่าคงมีใครๆแวะไปเยี่ยมเยียนอุดหนุน


Link ของทางร้าน —> Slow life Cafe
หมายเหตุ ร้าน หยุด วันอังคาร , ศุกร์ หรือตรวจสอบกับเพจของร้านก่อนไป
ผู้สนับสนุนการเดินทาง เพจ บ้านลุงหมอภูเก็ต
บ้านน่ารัก ที่พักสำหรับครอบครัว



One thought on “Slow life Cafe : คาเฟ่ริมแม่น้ำ กับชิบะหมาอินดี้”